

“ผมฝึกงานที่บริษัท สมาร์ทเทอร์แวร์ จำกัด ในเครือบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) ในตำแหน่ง AI Engineer ที่เลือกฝึกงานที่นี่เพราะตรงกับสายที่ผมเรียนคือด้าน AI ก่อนเริ่มฝึกงาน ผมได้ทบทวนบทเรียนที่เคยเรียนในห้องเรียน เช่น การพัฒนาโมเดล AI และพื้นฐานโปรแกรมมิ่ง รวมถึงเปิดใจรับข้อมูลใหม่ๆ เพราะบางเรื่องอาจไม่เคยเจอมาก่อน
งานที่ผมฝึกเป็นงานพัฒนาโมเดล AI โดยเริ่มจากที่พี่เลี้ยงไปรับงานจากลูกค้าและดูความต้องการของลูกค้าว่า ลูกค้าต้องการงานอะไรแบบไหน เช่น อยากได้แอปพลิเคชัน เนื้อหาประมาณนี้พอจะได้มั้ย แล้วพี่เลี้ยงก็จะกลับมาแบ่งงานให้น้องๆ ทำ โดยให้เลือกว่าอยากทำส่วนไหน โดยคนคนหนึ่งจะได้งาน 1-3 งานหรือมากกว่านั้น แล้วแต่หัวข้อของโปรเจค ซึ่งมีการเขียนโค้ดเอง ทดสอบระบบเอง แล้วนำไปให้พี่เลี้ยงประเมินว่าใช้ได้ไหม บางครั้งฟังก์ชั่นอาจไม่ครบหรือไม่ดีพอ ก็ต้องปรับเปลี่ยนกันเพื่อให้ได้งานที่สมบูรณ์ที่สุด ในช่วงจบงาน เราก็จะเอาโมดูลที่ทุกคนแยกกันทำมาเชื่อมต่อกัน แล้วยื่นเป็นโปรเจคเสนอลูกค้าครับ”

“ในการฝึกงานครั้งนี้ ผมได้ฝึกฝนทักษะทั้ง Hard Skill และ Soft Skill หลายด้านด้วยกัน เช่น
1.ทักษะการจัดการ Data
ก่อนที่จะมี AI เราต้องมี Data เพื่อให้ AI ได้เรียนรู้ ในส่วนของการจัดการ Data เราต้องคัดแยกทำความสะอาด (Clean Data) เพื่อให้ข้อมูลที่เรานำมาเทรนโมเดลนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลานานที่สุด ซึ่งจะมีการจัดการข้อมูลด้วย Data Cleaning, Augmentation, และ Balancing เพื่อให้โมเดลเรียนรู้ได้ดี โดยใช้เครื่องมืออย่าง Pandas หรือ NumPy ช่วยในการทำงาน
2.ทักษะการเขียนโค้ด
ในงานไม่ได้มีแค่งาน AI ให้ทำอย่างเดียวเพราะมีงานอื่นๆ อยู่ด้วยเช่น การทำ Web App ทำระบบ Chat Bot เพื่อตอบคำถามในเนื้อหาที่ระบุไว้ เช่น เราใส่เนื้อหาภาษาไทยเข้าไป เมื่อผู้ใช้ถามคำถามมา มันจะเอาคำถามนั้นไปค้นหาในพื้นที่ที่เราเก็บเนื้อหาไว้ และนำคำถามและเนื้อหานั้นส่งไปที่ LLM (โมเดลภาษาขนาดใหญ่) เพื่อสร้างคำตอบออกมา
3.ทักษะการใช้งาน AWS (Amazon Web Services)
เป็นแพลตฟอร์มการให้บริการ Cloud Computing จากบริษัท Amazon ที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือด้าน IT ที่หลากหลาย เช่น การประมวลผล, การจัดเก็บข้อมูล, การวิเคราะห์ข้อมูล, การพัฒนาแอปพลิเคชัน, และการให้บริการ AI/ML (Artificial Intelligence/Machine Learning) เนื่องจากในการทำงานเราต้องใช้เครื่องมือบางตัวของ AWS เพื่อให้งานดำเนินต่อได้ เครื่องมือบางตัวก็ได้เรียนรู้จากห้องเรียนมาแล้ว แต่ในการทำงานจริง เราต้องเรียนรู้เครื่องมือใหม่ทั้งหมด ทำให้ได้ทักษะนี้มาด้วย
4.ทักษะการค้นหางานวิจัย และการใช้งานเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง
ในการทำงานของ AI บางงานก็มีคนเคยทำไปแล้ว หรือมีคนที่ทำงานคล้ายกับงานของเรา บางทีเราต้องไปค้นหางานวิจัยที่มีคนเคยเขียนเอาไว้ เพื่อดูว่าเขามีกระบวนการคิดอะไรบ้างในการทำโมเดล บางงานที่เราคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้อง พอได้อ่านงานวิจัยของเขา ก็มีเครื่องมือที่เราต้องการใช้อยู่ อย่างล่าสุดก็ได้ไปงาน AI ที่เมืองทองมา เพื่อไปดูว่ามี AI ตัวไหนบ้างที่น่าสนใจที่จะมาเสริมงานของเราให้ดีขึ้น เราก็ไปบูธต่างๆ และถามเขาว่า AI นี้ทำอะไร ใช้งานยังไง เนื่องจากเรายังเป็นนักศึกษาอยู่ ทำให้มีข้อได้เปรียบในการซักถามครับ
5.ทักษะการสื่อสาร
เนื่องจากเราทำงานเป็นทีม เราต้องมีการปรึกษาและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ต้องสื่อสารกับทีมงานเยอะๆ ถ้าเราเจอปัญหา อย่าเก็บไว้คนเดียว ต้องบอกเพื่อนหรือพี่เลี้ยงทันที ไม่งั้นอาจจะเสียเวลาหรือทำให้งานล่าช้า และเวลาทำงานร่วมกัน อย่าคิดไปเองว่าคนอื่นจะเข้าใจสิ่งที่เราทำตลอด ถ้ามีอะไร ต้องอธิบายให้ชัดเจน”

“ในการทำงาน บางครั้งเราก็ต้องเรียนรู้เครื่องมือใหม่ ช่วงนี้แหละเป็นช่วงที่สนุกที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่า ตรงส่วนนี้มันทำอะไร ผลออกมาแบบนี้ได้อย่างไร มาจากส่วนไหน หรือเครื่องมือนี้ใช้ยังไง บางครั้งก็ทำงานในรูปแบบที่ถูกต้องตรงตามคู่มือที่เขาให้ไว้ แต่ก็ใช้งานไม่ได้ เราก็ต้องไปดูว่ามันเกิดจากปัญหาอะไร ในการเขียนโค้ด บางครั้งเราแก้ Bug ตัวนี้ไป อาจมี Bug ตัวใหม่งอกออกมาเรื่อยๆ แต่การได้เรียนรู้อะไรที่มันยากๆ ก็สนุกดีเหมือนกันครับ
การเรียนสลับกับฝึกงานแบบ Work-based Education ทำให้ได้ประสบการณ์จริง ตอนเรียนอยู่ก็มีบางช่วงที่ไม่ได้ตั้งใจ ตามอาจารย์ไม่ทันบ้าง แต่พอมาฝึกงาน ถึงได้รู้ว่าสิ่งที่อาจารย์สอนนั้นสำคัญและได้ใช้ในการทำงานจริงๆ อยากบอกน้องๆ ว่า ที่ PIM เรียนในห้องเรียนไม่นานก็ลงสนามจริงได้เลย ถ้าอยากลองวิชา ก็สามารถลองได้ตอนที่ไปฝึกงาน ก่อนที่จะออกไปทำงานจริง
ในอนาคต ผมวางแผนไว้ว่าจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ อยากจะเรียนต่อทางด้านวิศวกรรมที่เยอรมนี เพราะประเทศนี้เขาเก่งด้านวิศวกรรม ผมอยากได้ภาษาและที่นี่ก็มีทุนรัฐบาลให้เรียนฟรีด้วย ผมหวังว่าจะได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมครับ”