เน้นทำงานเป็นทีมมากกว่าฉายเดี่ยว
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะชอบการทำงานเป็นทีมมากกว่าการทำด้วยตัวคนเดียว ด้วยความเชื่อที่ว่า การระดมสมองและใช้ความคิดที่หลากหลาย ไม่เพียงทำให้ได้ผลงานที่ดีเท่านั้น แต่จะทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ และส่งผลให้การสื่อสารในทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ ขึ้นมา ก็จะได้รับการแก้ไขในเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้น ความสามารถในการสื่อสารและการสังเกตบรรยากาศรอบตัวจึงสำคัญมาก จนถึงขนาดมีคำภาษาญี่ปุ่นที่ว่า kūki wo yomu (空気を読む) ที่แปลว่า การอ่านบรรยากาศรอบตัว
ตรงต่อเวลา
ในการทำงาน ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นอกจากคุณภาพในการทำงานแล้ว พฤติกรรมทั่วๆ ไปก็มีความสำคัญเช่นกัน ในเรื่องของการเข้างาน ควรจะเข้าให้ตรงเวลา หรืออาจจะเข้าก่อนเวลาเล็กน้อย เพื่อทำภารกิจส่วนตัวก่อนเริ่มงาน คนที่ไม่ตรงต่อเวลาจะถูกมองว่าไม่สามารถบริหารจัดการตนเองได้และไม่มีประสิทธิภาพ
หากมีการนัดหมายกับกับคนญี่ปุ่น ควรจะไปให้ตรงเวลา ไม่ควรไปก่อนเวลามากเกินไป ถ้าไปถึงเร็วเกินไป ฝั่งต้นทางก็อาจจะยังไม่พร้อม ดังนั้นจึงควรไปก่อนเวลาประมาณ 5 นาที ที่สำคัญคือ ไม่ควรไปสายเด็ดขาด ถ้าไปไม่ทันให้รีบแจ้งให้คนญี่ปุ่นทราบก่อนถึงเวลานัดให้เร็วที่สุด การติดต่อไปหลังจากที่เลยเวลานัดแล้ว จะทำให้ความน่าเชื่อถือของเราลดลงซึ่งจะต้องระวังในจุดนี้เอาไว้ให้มาก
รับผิดชอบต่องาน มีระเบียบวินัยสูง
คนญี่ปุ่นเชื่อในเรื่องความขยันขันแข็ง อดทน และทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ พวกเขาทำงานหนักและมีความรับผิดชอบต่องานสูงมาก โดยจะรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด ในขณะอยู่ที่ทำงานก็มักไม่ค่อยพูดคุยกันและไม่เล่นโทรศัพท์ส่วนตัว การใช้เวลามากเกินไปในการพูดคุยกันหรือเล่นโทรศัพท์นั้นจะถูกมองว่าไม่ได้ทำงานอย่างจริงจัง แต่เมื่อถึงเวลาพัก คนญี่ปุ่นก็จะเต็มที่กับการพักผ่อนเช่นกัน หากต้องการทำงานในบริษัทญี่ปุ่นก็ต้องรักษากฎระเบียบในการทำงานของแต่ละบริษัทให้ดี
เรียนรู้จากรุ่นพี่
คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความอ่อนน้อมถ่อมตน และมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมากเวลาพูดคุยกับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่อาวุโสกว่า ในสังคมการทำงานของญี่ปุ่น ผู้ที่เข้ามาทำงานใหม่ต้องให้ความเคารพรุ่นพี่ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้ามาทำงานก่อนที่มีประสบการณ์หรืออายุงานมากกว่า โดยอาศัยการสอบถามและเรียนรู้จากรุ่นพี่ในการทำงานตามแบบฉบับของบริษัท และต้องรักษาความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงานด้วย
สื่อสารตามหลัก HoRenSo
“HoRenSo” เป็นทฤษฎีการทำงานของคนญี่ปุ่นที่จะช่วยเพิ่มความเข้าใจในการทำงาน โดยเฉพาะการสื่อสารระหว่างหัวหน้าและลูกน้องให้ดียิ่งขึ้น
Ho – Houkoku (報告) การรายงาน
คือการรายงานความเคลื่อนไหวในการทำงานให้หัวหน้าทราบ โดยเน้นความถูกต้อง รวดเร็ว และข้อมูลที่ครบถ้วน หากเป็นงานที่ใช้เวลานาน อาจมีการอัพเดทความคืบหน้าเป็นระยะ
Ren – Renraku (連絡) การติดต่อ/แจ้งข้อมูล
หมายถึง การแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนั้น เช่น ทีมงาน คู่ค้า และซัพพลายเออร์ เพื่อให้ทราบถึงผลลัพธ์และประเด็นสำคัญของงานนั้นๆ
So – Sodan (相談) การปรึกษา
หมายถึง การปรึกษาหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเมื่อมีอุปสรรคต่างๆ ในการทำงาน โดยการปรึกษาที่ดี ผู้ปรึกษาควรเตรียมแนวทางการแก้ปัญหาของเราเองก่อนไปปรึกษาผู้อื่นด้วย
HoRenSo ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำงาน เพราะเป็นการสื่อสารเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เมื่อทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดปัญหาและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
เลิกงานช้า
ในประเทศญี่ปุ่น วัฒนธรรมการเลิกงานคือจะต้องกลับหลังจากเจ้านายหรือหัวหน้า ซึ่งปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้คนญี่ปุ่นทำงานดึก แต่สาเหตุใหญ่ที่ทำให้วัฒนธรรมการทำงานล่วงเวลาของญี่ปุ่นเกิดขึ้นมาจากความเชื่อที่ว่า คนที่ทำงานล่วงเวลาถือเป็นคนขยันและทำงานหนักมาก อีกเหตุผลหนึ่งคือ คนญี่ปุ่นมักจะใส่ใจเพื่อนร่วมงาน และพบว่ายากที่จะออกตรงเวลาหากคนอื่นยังคงนั่งทำงานอยู่
สังสรรค์หลังเลิกงาน
คนญี่ปุ่นเลิกงานแล้วชอบไปสังสรรค์กันก่อนกลับบ้านผ่าน ”Nominication” คำว่า Nomu แปลว่าดื่ม และคำว่า Communication แปลว่าการสื่อสาร ก็ผสมรวมกันเป็นคำว่า Nominication (飲みニケーション) ปัจจุบันมีคนที่ไม่นิยมดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น และเทรนด์ของการให้ความสำคัญกับเวลาส่วนตัวก็มาแรงขึ้น ทำให้การดื่มสังสรรค์ของบริษัทลดลงไปบ้าง แต่หลายบริษัทก็มีการจัดเลี้ยงเพื่อเสริมสร้างมิตรภาพและความเป็นครอบครัวมาตั้งแต่อดีต โดยมองว่าการกินเลี้ยงร่วมกันจะเปิดโอกาสให้พนักงานที่ปกติไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดคุยกัน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้สนิทกันมากขึ้น ส่งผลให้งานที่ทำอยู่นั้นราบรื่นขึ้นด้วย