เปิดประตูสู่ความสำเร็จ หมี่หยก-ธมนวรรณ แก้วระยับ บัณฑิตสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ พีไอเอ็ม

เปิดประตูสู่ความสำเร็จ หมี่หยก-ธมนวรรณ แก้วระยับ บัณฑิตสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ พีไอเอ็ม
มาทำความรู้จักกับรุ่นพี่คนเก่ง หมี่หยก-ธมนวรรณ แก้วระยับ บัณฑิตสาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ (เกียรตินิยมอันดับ 1) คณะศิลปศาสตร์ พีไอเอ็ม ที่เพิ่งรับปริญญาไปหมาดๆ

ปัจจุบัน หมี่หยก ทำงานตำแหน่ง Legal Assistant & Business Development, บริษัท ไอแอลซีที จำกัด (ILCT Ltd.)
และกำลังศึกษาต่อคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อยากรู้ว่าสาว LA คนนี้จับพลัดจับผลูไปทำงานด้านกฎหมายได้อย่างไร ตามมามุงกันเร็ว

บัณฑิตศิลปศาสตร์ที่สนใจด้านกฎหมาย

ปัจจุบันทำงานที่บริษัทที่ปรึกษากฎหมาย เริ่มทำงานในตำแหน่งเลขา ก่อนจะขยับมาเป็น Legal Assistant และ Business Development ในปัจจุบัน เป็นบริษัทที่แนะนำด้านกฎหมาย ให้บริการที่ปรึกษาเรื่องกฎหมายธุรกิจ ซึ่งจะไม่ค่อย Relate กับสถานที่ฝึกงานและการเรียนที่คณะศิลปศาสตร์ แต่ช่วงที่เรียนจบเมื่อประมาณสองปีที่แล้วมีการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทุกอย่างชัตดาวน์หมดเลย แต่ก็ยังได้งานที่นี่ซึ่งนับว่าโชคดีมาก ตำแหน่งเลขาก็จะเป็นการเตรียมเอกสาร ดูแลนาย แต่ด้วยทักษะด้านภาษาทำให้รับมอบหมายงานอื่นเพิ่มเติม เช่น การแปลสัญญา และนโยบายต่างๆ ทำให้มีความรู้เรื่องกฎหมายจนได้โปรโมทเป็น Legal Assistant และเป็น Business Development ตามลำดับ ทำให้ต้องศึกษาข้อมูลและหาความรู้ด้านกฎหมายเพิ่มขึ้น จึงไปเรียนต่อด้านนิติศาสตร์ ที่ ม.รามคำแหง เพื่อเติมความรู้

เลือกพีไอเอ็มเพราะแนวการเรียนการสอนแบบ WBE

เรียนพีไอเอ็ม เพราะทั้งตัวเองและคุณพ่อสนใจแนวการเรียนการสอน Work-based Education ไม่กลัวการฝึกงาน เพราะตอนเรียนมัธยมก็เคยทำงานพิเศษช่วงปิดเทอม เช่น ในร้านหนังสือ ยืมเช่าหนังสือ จึงรู้ว่าการทำงานควบคู่ไปกับการเรียนนั้นมีข้อดีให้เราได้มีประสบการณ์ทำงานและมีโอกาสที่จะได้งานทำด้วย

เป็นคนสนใจภาษาอังกฤษอยู่แล้วจึงเลือกเรียน สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ คณะศิลปศาสตร์ และได้ทุน 50% ตอนสอบวัดระดับก็ยังอยู่ในระดับกลางๆ พอเข้ามาเรียนที่ CEB บรรยากาศที่เข้มข้นทั้งตัวเนื้อหา อาจารย์ และเพื่อนๆ เพราะที่นี่เน้นการเรียนภาษาเพื่อนำไปใช้ทำงานจริง ทำให้เราต้องขยันมากขึ้นเพื่อพัฒนาตัวเอง นอกจากนี้หนูยังทำกิจกรรม ไปประกวดอินโนเวชั่นที่เกาหลีซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของคณะศิลปศาสตร์และคณะวิศวกรรมศาสตร์ พีไอเอ็ม เป็นพิธีกรให้มหาวิทยาลัยที่ได้ลองใช้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทำกิจกรรมร่วมกับนักศึกษาแลกเปลี่ยนและนักศึกษาต่างชาติก็ทำให้เราได้ฝึกภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น

การฝึกปฏิบัติงานตลอดทั้ง 4 ปี

ปีที่ 1
สถานประกอบการ: JW Marriott Khao Lak Resort & Spa
ตำแหน่ง: Hostess / Waitress
Skills: การสื่อสารภาษาอังกฤษ ระเบียบวินัย

ปีที่ 2
สถานประกอบการ: 7-11
ตำแหน่ง: Cashier
Skills: การสื่อสารภาษาอังกฤษ ระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา

ปีที่ 3
สถานประกอบการ: BNH Hospital
ตำแหน่ง: Registration Officer
Skills: การสื่อสารภาษาอังกฤษ ระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา การทำงานร่วมกับผู้อื่น

ปีที่ 4
สถานประกอบการ: Wall Street English
ตำแหน่ง: Educational Service Coach
Skills: การสื่อสารภาษาอังกฤษ ระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

สถานประกอบการ: Phulay Bay, a Ritz-Carlton Reserve
ตำแหน่ง: Butler & Guest Relations Officer
Skills: การสื่อสารภาษาอังกฤษ ระเบียบวินัย การตรงต่อเวลา การทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ภาษาเป็นพื้นฐาน ทักษะอื่นต้องตามหา

สิ่งที่ได้จาก LA คือ เราได้ภาษาอังกฤษซึ่งนำมาปรับใช้ในการทำงานได้อยู่แล้ว ส่วนทักษะอื่นๆ เราก็หามาพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมทีหลังได้ อย่างเรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งเป็นทักษะที่เราได้มาตอนฝึกงาน อยู่ที่นี่ก็ได้นำมาใช้ค่ะ

ข้อดีของการเรียนภาษาคือ ช่วยเปิดประตูให้เราในการค้นหาความรู้ต่างๆ มีโอกาสใหม่ๆ ทำงานใหม่ๆ เพราะมันไม่ใช่ Specialist ที่จำกัดสายว่าจบมาแล้วต้องทำงานนี้เท่านั้น ชีวิตต้องรู้จักการพลิกแพลงเพื่อที่จะหาอาชีพที่เหมาะสมกับตัวเรา

ความประทับใจที่มีต่อพีไอเอ็ม ที่นี่เน้นเรื่องโอกาสมีให้เยอะและหลากหลาย เพราะเรามีเน็ตเวิร์คมากมายทั้งระดับประเทศและต่างประเทศทั้งในด้านการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถเข้าร่วมได้ พีไอเอ็มจึงเหมาะกับคนที่ต้องการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ฝึกฝนพัฒนา และไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว