อ.น้ำหวาน – วราภรณ์ ภูคา
อาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ พีไอเอ็ม
“อาจารย์พยาบาลสายจิตเวช เน้นพลังบวก เรียนอย่างมีความสุข”
• วิชาที่สอน
“สอนวิชาบรรยายการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช ราชเทวี ณ ศรีราชา ถ้าถามว่าเครียดไหมสุขภาพจิตและจิตเวชก็น่าจะเป็นวิชาไม่ค่อยเครียดสักเท่าไหร่ เนื่องจากว่าเราจะสอนให้เด็กๆ มีความสุขในการเรียนเพราะว่าในเรื่องสุขภาพจิตและจิตเวชแล้ว การที่เราจะไปดูแลคนอื่นได้นั้น เราก็ต้องมีสุขภาพจิตที่ดีก่อน เพราะฉะนั้น ให้เด็กเรียนรู้ในเรื่องของการดูแลสุขภาพของตัวเอง ประเมินตัวเองให้เป็น ถึงจะขึ้นไปฝึกปฎิบัติกับผู้ป่วย ทฤษฎีก็จะเรียนเรื่องพัฒนาการตามช่วงวัย แล้วก็จะเริ่มลงไปในเรื่องคือลึกไปในเรื่องของโรคจิตต่างๆ ที่เราเห็นกันทั่วๆไปที่เราพูดถึงในสังคมปัจจุบันก็จะเป็นในเรื่องของภาวะซึมเศร้า โรคซึมเศร้า โรคไบโพล่าร์ โรคจิตเภท”
• การขึ้นวอร์ดของนักศึกษา
ได้พานักศึกษาขึ้นฝึกปฏิบัติงานในสาขาวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุ ฝึกที่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา การขึ้นวอร์ดจะให้เด็กใช้ความรู้ที่เรียนมาในวิชาบรรยายไปประเมินคนไข้ จะมีแบบประเมินว่าถ้าคนไข้มีภาวะแบบนี้เขาจะต้องให้การพยาบาลคนไข้ยังไง มีการทำกิจกรรมกลุ่มบำบัดให้คนไข้ การไปดูหัตการพิเศษ อย่างการรักษาด้วยคลื่นไฟฟ้า และการให้ยาทางด้านจิตเวช
• วิธีดูแลให้คำปรึกษานักศึกษา
“อาจจะเป็นเพราะอาจารย์พยาบาลเคยเป็นพยาบาลมา และเรียนรู้ว่าเด็กช่วงวัยนี้มีอารมณ์เป็นยังไง พฤติกรรมยังไง ในช่วงวัยนี้ เรียนรู้เข้าใจพฤติกรรมและอารมณ์เขา เข้าหาเขาได้ถูก ด้วยวัยที่ไม่ได้ห่างกันมากนัก ในฐานะที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาด้วย ก็จะมีการตั้งไลน์กลุ่ม และทักถามสารทุกข์สุกดิบเขาเป็นระยะ มีไปกินหมูกะทะด้วยกันตอนใกล้ปีใหม่ เราอยากผลักดันและส่งเขาให้ถึงฝั่ง เพราะเขาเป็นความหวังของพ่อแม่ อยากให้เขาสำเร็จ”
• DNA ของคณะนักศึกษาพยาบาลศาสตร์
“เด็กต้องมีภาวะความเป็นผู้นำ เพราะเป็นที่ต้องการอย่างมากของแต่ละโรงพยาบาลทั่วโลก เพราะเราทำงานร่วมกันกับพยาบาลเอง และสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ เภสัช ถ้าเรามีความเป็นผู้นำ แบบนี้แล้วเราอยู่กับคนไข้ได้แบบใกล้ชิดมากกว่าสหายอาชีพคือแล้วก็จะต้องมีความกล้าในเรื่องของการสื่อสารระหว่างคนไข้กับหมอ ต้องใช้ความกล้าและความเป็นผู้นำแล้วก็นวัตกรรมค่ะ สองก็คือเป็นนวัตกรรมงานวิจัยเราก็จะพยายามผลักดันให้เด็กของเรามีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จะต้องสามารถที่จะพัฒนานวัตกรรมของเราเกี่ยวกับทางพยาบาลให้ล้ำวกับชาติและระดับนานาชาติ อาจจะมีการทำวิจัยตีพิมพ์ในระดับ Scopus อีกอย่างหนึ่งก็คือให้นักศึกษาของเราเป็นคนดี มีคุณธรรม จริยธรรมด้วย ซึ่งสำคัญมาก”
• ฝากถึงน้องๆ ที่อยากมาเรียนพยาบาล พีไอเอ็ม
“อยากให้มาเลยเพราะว่าเรามีความแตกต่างจากที่อื่นแน่นอน นอกจากจะให้เด็กมีภาวะผู้นำ ก็ยังมีนวัตกรรมต่างๆ คุณจะได้เรียนที่ห้อง Anatomy ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย สามารถที่จะเข้าไปเรียนรู้ด้วยตัวเองแล้วมีเครื่องไม้เครื่องมือเสมือนจริงที่ทันสมัยเลย สองก็คือห้อง Simulation คือห้องปฏิบัติการพยาบาลเสมือนจริงที่เราการันตีได้ว่าถ้าเกิดว่าคุณมาเรียนแล้ว คุณจะได้ฝึกปฏิบัติเหมือนกับอยู่บนหอผู้ป่วยจริง เพียงแต่ว่าคนไข้ที่นอนอยู่ไม่ได้เป็นคนจริง เป็นหุ่นแต่เขาสามารถที่จะมีองค์ประกอบเหมือนมนุษย์เลย สามารถร้อง สามารถฟังปอด ฟังเสียงหัวใจ ทำหัตถการต่างๆ ได้เสมือนจริง
และนอกจากนี้รูปแบบการเรียนของการสอนของเราก็จะฝึกให้มีการทำงานเป็นทีม ถ้าเราไปฝึกบนวอร์ดจริงสถานการณ์อาจจะวุ่นวายแต่เราจะฝึกให้นักศึกษาทำงานเป็นทีมที่อยู่กับหอผู้ป่วยเสมือนจริง เหมือนอยู่ในโรงพยาบาล เด็กๆก็จะรู้จักการบริหารจัดการทั้งตนเองแล้วก็บริหารจัดการเพื่อนร่วมงานกับสหวิชาชีพ นอกจากนี้เรายังมีการไปทำงานบริการร่วมกับชุมชน เยี่ยมคนไข้ คนป่วย คนสูงอายุ ประเมินอาการต่างๆ เพราะฉะนั้นเด็กเราก็จะมีความรู้ทั้งนวัตกรรมทันสมัย การทำงานเป็นทีมทั้งอยู่บนหอผู้ป่วย และทำงานร่วมกับชุมชนด้วย”
อ.กอล์ฟ-สิบเอกศตวรรษ มูลสอน
อาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ พีไอเอ็ม
“อาจารย์เป็นแค่ตัวช่วย เน้นผู้เรียนมีส่วนร่วมเป็นหลัก”
• สไตล์การสอนของอาจารย์
“ผมสอนวิชาหลักคือการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช และวิชากระบวนการพยาบาลและประเมินทางด้านสุขภาพ หลักการและเทคนิคการพยาบาลพื้นฐาน จุลชีววิทยาและปรสิตวิทยา สไตล์การสอนของผมในคลาสเรียนเน้นเรื่องของความสนุกสนาน เรื่องของ Active Learning เพราะว่าตัวผู้สอนเองเป็นแค่ Facilitator ให้เขาในการที่จะแสวงหาหรือจัดการกับองค์ความรู้ เพราะในปัจจุบันเรื่องขององค์ความรู้เหล่านี้มันสามารถเข้าถึงได้ค่อนข้างง่าย แต่การที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของอาจารย์คือเป็นการนำทางเขาให้เหมาะหรือถูกต้องในการนำไปใช้ซะมากกว่า เพราะฉะนั้นในคลาสเรียนของผม นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมค่อนข้างเยอะแล้วก็เป็นการต่อยอดหรือหาความรู้จากตัวเขาแล้วก็จัดการองค์ความรู้เหล่านั้นด้วยตัวเขาเองโดยที่เราเป็นแค่องค์ประกอบหนึ่งที่เป็นตัวช่วย”
• การดูแลนักศึกษาเน้นให้ความเชื่อใจ
“เบื้องต้นเราต้องสร้างสัมพันธภาพตั้งแต่แรกที่เรารู้จักกับเขาแล้วก็ทำให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้อยู่สูงกว่าเขา คือลดช่องว่างตรงนั้นลง อายุเราไม่ต่างกันมาก เพราะฉะนั้นเขาต้องมีความรู้สึกว่าอาจารย์คนนี้เข้าถึงได้ คือครั้งแรกที่เขาเห็นเราแล้วในระหว่างทางเราไม่ต้องรอให้เขาเดินเข้ามา เราต้องพยายามหาโอกาสทั้งแบบที่เป็นทั้งทางการหรือไม่ทางการ อาจจะเดินผ่านเขาแล้วทักทายว่าเป็นยังไง มันก็จะเป็นการที่จะดูแลเขาได้ในตัว เมื่อเขาเกิดความรู้สึกศรัทธาหรือเชื่อถือเราแล้ว พอเขามีปัญหาเขาจะเดินเข้ามาหาเอง และเรายังเปิดช่องทางในสาขาจิตเวชให้บริการการดูแลสุขภาพจิตกับนักศึกษาโดยผ่านช่องทาง LINE OA ด้วย ทีมแอดมินก็จะเป็นคณาจารย์ในสาขาสุขภาพจิตร่วมกันดูแล เพราะฉะนั้นเวลาที่นักศึกษามีปัญหาไม่ว่าจะเล็กใหญ่ก็สามารถเข้ามาปรึกษาได้ เรามีกิจกรรมบำบัดให้เขาด้วย เช่น Garden Therapy ใช้ต้นไม้ ใช้ธรรมชาติบำบัด ผสมผสานศาสตร์ทางด้านจิตเวชเข้าไป”
• DNA ของคณะพยาบาลศาสตร์
“ผมว่านักศึกษาที่นี่เป็นเด็กที่มีความสามารถและมีความพยายาม เด็กทุกคนเขาพยายามที่จะเรียนรู้ อันดับแรกคือเขาพยายามที่จะเข้าที่นี่ ทุกคนที่จะผ่านเข้าที่นี่ได้เขาไม่ได้มาด้วยระบบทั่วไป ไม่ได้มาด้วยระบบปกติ เพราะฉะนั้น DNA ของเขาคือมีความกระตือรือร้น มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแล้วเขามีความเป็นผู้ใหญ่จากที่ผมเคยสอนมา แม้กระทั่งเด็กมหาวิทยาลัยเองก็ตาม เขาจะมีลักษณะของเด็กที่คอยให้เราป้อน แต่เด็กที่นี่เขาจะมีอะไรมา discuss กับเรา พูดคุยกับเราแล้วกล้าที่จะแสดงออกก็จะมีความคิดริเริ่ม ผมมองถึงความมุ่งมั่นที่เขามีที่เห็นจากเด็กที่นี่”
• ทำไมต้องมาเรียน NS PIM
“คณะพยาบาลศาสตร์ พีไอเอ็ม ที่นี่เรามุ่งสร้างพยาบาลนักจัดการโดยใช้ศาสตร์และศิลป์ที่ก้าวล้ำและทันสมัยนั่นหมายความว่าเราจะพาเขาฝึกทักษะที่อนาคตต้องการ ถ้าคุณมาเรียนที่นี่จะไม่ได้เป็นพยาบาลแบบทั่วไปที่ภาพจำสมัยก่อนเขามีกัน คืออาจารย์มาสอนให้คุณจัดการตั้งแต่เรื่องขององค์ความรู้ จัดการตัวคุณเองที่จะเรียนรู้กับเรา ในบางครั้งวิธีการสอนหรือรูปแบบการสอนของเราอาจจะเรียนไป สอบไป แต่เขาจะต้องมีวิธีการจัดการ อาจารย์จะเป็นคนที่จะพาให้เขามีทักษะตรงนี้ ที่เขาจะต้องพัฒนา แล้วในอนาคตเขาต้องจัดการองค์ความรู้ที่มีแล้วไปใช้กับคนไข้ และต้องจัดการตัวเองในอนาคตได้ด้วย เพราะในอนาคตความรู้ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เขาจะต้องเป็นคนพัฒนาไปเรื่อยๆ ต้องอาศัยเทคนิคการจัดการตนเอง”
อ. ขวัญ – อารียา สมรูป
อาจารย์คณะพยาบาลศาสตร์ พีไอเอ็ม
“เรียนพยาบาลต้องสนุกและไม่เบื่อ ด้วย Active Learning”
• วิชาที่รับผิดชอบ
“สอนวิชาการพยาบาลมารดา ทารก และการผดุงครรภ์ สอนนักศึกษาปี 3-4 และมีสอนวิชาอื่นด้วย เช่น การพยาบาลพื้นฐาน พวกทำแผล เจาะเลือด ให้ยา ให้น้ำเกลือ ฯลฯ ด้วยหลักสูตรของที่นี่ต้องใส่ภาษาอังกฤษเข้าไปประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ในรายวิชา วิชาของเราก็ใช้ศัพท์ทางการแพทย์และการพยาบาลเป็นภาษาอังกฤษ การพรีเซ็นต์งานหรือสอนสุขศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ เราก็ให้นักศึกษาพรีเซนต์สอนสุขศึกษามารดาหลังคลอดเป็นภาษาอังกฤษ”
• สไตล์การสอน
“บางหัวข้อเราก็จะใส่ Active Learning ได้ เช่น การทำคลอด การฝากครรภ์ อาจารย์จะสอนนำเสนอเป็นตัวทฤษฎี PowerPoint ก่อน แล้วก็อาจจะมีกิจกรรม มีการซักถาม มีการโต้ตอบกัน ให้เด็กวิเคราะห์กรณีศึกษาด้วย และมีเกม มีควิซ ใช้เทคโนโลยีอย่างแอป Kahoot, Quizizz มาใช้ จะไม่บรรยายอย่างเดียว นักศึกษาจะได้ไม่เบื่อ”
• DNA ของนักศึกษาพยาบาล พีไอเอ็ม
“คือพยาบาลนักจัดการ ซึ่งเด็กถือว่าทำได้ดี ปกติแล้วเราต้องป้อนให้เขาตามสเต็ป แต่ที่นี่เราไม่ต้องบอกขั้นตอน เราแค่บอกแค่หัวข้อแล้วเขาก็ไปจัดการกันเอง เช่น วันนี้ครูจะทำกลุ่มซิมนะ หนูไปจัดการกันมาไปแบ่งกลุ่มกันมาว่าใครจะเอาเรื่องไหน เขาก็ไปจัดการกันเองได้ เราก็อึ้งเหมือนกันที่เขาทำได้ นี่เลยเป็น DNA ที่มองเห็นว่ามาจากตัวของเด็กจริงๆ”
• การดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิด
“กับเด็กๆ ค่อนข้างสนิทเพราะวัยใกล้เคียงกัน นักศึกษาบางคนอายุมากกว่าก็มี เหมือเราเป็นรุ่นเดียวกัน บางอย่างเราก็รู้เท่าเขา อย่างพวกโซเชียลมีดีย คุยกันง่าย ด้วยเจนเดียวกัน เด็กๆ หลักสูตร 4 ปีก็ยิ่งสนิท เพราะเราเข้าใจวัยเขาว่าอยากรู้อยากเห็น เราตอบไลน์เขาดึกๆ ได้ ถ้ามีปัญหาอะไร จะไม่เข้มงวดเรื่องเวลาเท่าไหร่”
• ฝากถึงน้องๆ ที่อยากมาเรียนพยาบาลที่นี่
“ถ้ามาเรียนที่นี่จะได้เจออาจารย์ที่วัยใกล้เคียงกัน มีความเข้าอกเข้าใจ การเรียนการสอนก็จะเป็นอะไรที่แปลกใหม่ สนุกสนานเฮฮา ด้วยความอาจารย์เป็นครูเลือดใหม่ อาจจะเข้าใจง่ายกว่ายุคก่อน ถ้าใครสนใจมาเรียนก็จะได้เป็นพยาบาลนักจัดการที่ดีอย่างแน่นอนค่ะ”
ผึ้ง-ภูริชนิดา จันทา
นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตร 2.5 ปี
จบปริญญาตรีสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
• สานฝันให้ตัวเองและครอบครัว
“หนูอยากมาเรียนพยาบาลด้วยเหตุผลว่าอยากเห็นตัวเองใส่ชุดสีขาว บวกกับทางบ้านอยากให้เราอยู่ในอาชีพที่มั่นคง เป็นอาชีพที่ได้บุญ ได้ดูแลคนที่เราไม่รู้จัก อีกประการหนึ่งคือมีพี่สาว ลูกพี่ลูกน้องเป็นพยาบาลแต่มะเร็งพรากชีวิตพี่ไป ในวันที่เราสอบติดพยาบาล เลยเหมือนเรากลายเป็นตัวแทนพี่มา ก็คิดว่าเราเป็นพยาบาลต่อจากพี่เอง ได้ทั้งสานต่อเจตนารมย์ของพี่ ของคุณแม่ และกับตัวเองด้วย สุดท้ายแล้วเราเห็นคนไข้หายจากโรค มีความสุข ยิ้มกลับบ้านได้ไปอยู่กับครอบครัว เราก็มีความสุขค่ะ”
• ความประทับใจต่อหลักสูตร 2.5 ปี
“ประทับใจในการฝึกปฏิบัติเพราะว่าพอเราไปปฏิบัติได้เจอกับคนไข้จริงๆ อย่างที่ผ่านมาได้ดูแลทารกแรกเกิดป่วย น้องหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องใช้ออกซิเจนต่ำๆ ตลอด แต่ตอนนั้นคุณแม่เขายังไม่ได้มาดูแล เราก็จะคอยดูแลน้องให้หายจากอาการป่วย เห็นน้องไม่ร้องไห้จากความเจ็บป่วยแล้วก็รู้สึกดีใจ ยิ่งตอนที่คุณแม่เขามาเห็นน้องว่าน้องร่างกายแข็งแรงขึ้น ดีขึ้น อยู่ในความดูแลของพยาบาลเป็นอย่างดี คุณแม่เขาก็สบายใจวางใจ หนูก็ประทับใจกับการได้ช่วยเหลือตรงนี้”
• ความสำคัญของพยาบาลนักจัดการ
“พยาบาลนักจัดการค่อนข้างสำคัญ ณ เวลานี้ พยาบาลเราสามารถเป็นได้กันทุกคน แต่คำว่านักจัดการ นั่นหมายความว่าเราต้องจัดการได้ ไม่ใช่แค่จัดการสายดูแลสุขภาพว่าจะจัดการดูแลผู้ป่วยยังไง เจอผู้ป่วยรูปแบบนี้ ต้องดูแลยังไง เราต้องบาลานซ์มันให้ได้ตามประสิทธิภาพ เราต้องจัดการให้ได้ รวมถึงจัดการตัวเองให้ได้ด้วย รวมถึงต้องทำงานกับสหสาขาวิชาชีพด้วย ในอนาคตอยากเป็นพยาบาลเกี่ยวกับทางด้านเชี่ยวชาญหัวใจ และพยาบาลทารกแรกเกิด เพราะเราได้ไปลองทำงานจริงที่ห้อง PICU หรือห้องวิกฤติเด็ก ก็เลยเริ่มสนใจทางด้านเด็กแรกเกิด ก็จะสนใจอยู่สองด้านนี้ค่ะ”
• เชิญชวนคนมาเรียนหลักสูตรนี้
“สำหรับคนที่จะเรียนหลักสูตร 2.5 ปี พยาบาลของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หนูมองว่าเหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะจบคณะใดๆ มา ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพหรือไม่ ขอแค่มีใจรักในการดูแลผู้ป่วย มีใจรักในการอยากจะพยาบาลให้เขาหายจากโรค และมีใจรักในวิชาชีพ ทุกคนสามารถเข้ามาเป็นพยาบาลวิชาชีพได้ค่ะ สามารถเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในครอบครัวกับพยาบาลของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์เราได้หมดเลย”
ผึ้ง-ภูริชนิดา จันทา
นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตร 2.5 ปี
จบปริญญาตรีสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
• สานฝันให้ตัวเองและครอบครัว
“หนูอยากมาเรียนพยาบาลด้วยเหตุผลว่าอยากเห็นตัวเองใส่ชุดสีขาว บวกกับทางบ้านอยากให้เราอยู่ในอาชีพที่มั่นคง เป็นอาชีพที่ได้บุญ ได้ดูแลคนที่เราไม่รู้จัก อีกประการหนึ่งคือมีพี่สาว ลูกพี่ลูกน้องเป็นพยาบาลแต่มะเร็งพรากชีวิตพี่ไป ในวันที่เราสอบติดพยาบาล เลยเหมือนเรากลายเป็นตัวแทนพี่มา ก็คิดว่าเราเป็นพยาบาลต่อจากพี่เอง ได้ทั้งสานต่อเจตนารมย์ของพี่ ของคุณแม่ และกับตัวเองด้วย สุดท้ายแล้วเราเห็นคนไข้หายจากโรค มีความสุข ยิ้มกลับบ้านได้ไปอยู่กับครอบครัว เราก็มีความสุขค่ะ”
• ความประทับใจต่อหลักสูตร 2.5 ปี
“ประทับใจในการฝึกปฏิบัติเพราะว่าพอเราไปปฏิบัติได้เจอกับคนไข้จริงๆ อย่างที่ผ่านมาได้ดูแลทารกแรกเกิดป่วย น้องหายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องใช้ออกซิเจนต่ำๆ ตลอด แต่ตอนนั้นคุณแม่เขายังไม่ได้มาดูแล เราก็จะคอยดูแลน้องให้หายจากอาการป่วย เห็นน้องไม่ร้องไห้จากความเจ็บป่วยแล้วก็รู้สึกดีใจ ยิ่งตอนที่คุณแม่เขามาเห็นน้องว่าน้องร่างกายแข็งแรงขึ้น ดีขึ้น อยู่ในความดูแลของพยาบาลเป็นอย่างดี คุณแม่เขาก็สบายใจวางใจ หนูก็ประทับใจกับการได้ช่วยเหลือตรงนี้”
• ความสำคัญของพยาบาลนักจัดการ
“พยาบาลนักจัดการค่อนข้างสำคัญ ณ เวลานี้ พยาบาลเราสามารถเป็นได้กันทุกคน แต่คำว่านักจัดการ นั่นหมายความว่าเราต้องจัดการได้ ไม่ใช่แค่จัดการสายดูแลสุขภาพว่าจะจัดการดูแลผู้ป่วยยังไง เจอผู้ป่วยรูปแบบนี้ ต้องดูแลยังไง เราต้องบาลานซ์มันให้ได้ตามประสิทธิภาพ เราต้องจัดการให้ได้ รวมถึงจัดการตัวเองให้ได้ด้วย รวมถึงต้องทำงานกับสหสาขาวิชาชีพด้วย ในอนาคตอยากเป็นพยาบาลเกี่ยวกับทางด้านเชี่ยวชาญหัวใจ และพยาบาลทารกแรกเกิด เพราะเราได้ไปลองทำงานจริงที่ห้อง PICU หรือห้องวิกฤติเด็ก ก็เลยเริ่มสนใจทางด้านเด็กแรกเกิด ก็จะสนใจอยู่สองด้านนี้ค่ะ”
• เชิญชวนคนมาเรียนหลักสูตรนี้
“สำหรับคนที่จะเรียนหลักสูตร 2.5 ปี พยาบาลของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ หนูมองว่าเหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะจบคณะใดๆ มา ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพหรือไม่ ขอแค่มีใจรักในการดูแลผู้ป่วย มีใจรักในการอยากจะพยาบาลให้เขาหายจากโรค และมีใจรักในวิชาชีพ ทุกคนสามารถเข้ามาเป็นพยาบาลวิชาชีพได้ค่ะ สามารถเข้ามาร่วมเป็นหนึ่งในครอบครัวกับพยาบาลของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์เราได้หมดเลย”
ฟลุ๊ค-สุรเชษฐ์ โพธิ์สองชั้น
นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตร 2.5 ปี
จบปริญญาตรีสาขาการจัดการเทคโนโลยีฟาร์ม
คณะอุตสาหกรรมเกษตร สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
• จากสัตวบาลสู่ว่าที่พยาบาลนักจัดการรุ่นใหม่
“ผมเรียนจบจากคณะอุตสาหกรรมเกษตร สาขาการจัดการเทคโนโลยีฟาร์ม พีไอเอ็มครับ ตอนแรกจบแล้วก็ไปทำงานที่ CPF อยู่ 3 ปี ก็เห็นแนวทางว่าหรือเราจะไปย้ายสายงานไหม มันจะได้กว้าง ต่อยอดทำธุรกิจของตัวเองด้วย ก็เลยลองมาดูสายสุขภาพว่าเราจะไปด้านไหนได้บ้าง แล้วเจอว่าที่นี่เปิดคณะพยาบาลศาสตร์ ก็เลยตัดสินใจมาเรียนที่นี่ครับ
ผมคิดว่าด้วยเทรนด์ของสุขภาพ ในอนาคตจะบูมขึ้นเรื่อยๆ สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น เราสามารถต่อยอดธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุได้หรือธุรกิจด้านสุขภาพในบทบาทของพยาบาล เลยสนใจครับ”
• ความประทับใจต่อหลักสูตร
“ผมชอบการฝึกปฎิบัติงาน ในการทำงานจริงๆ และการเรียนการสอนของพีไอเอ็มเองมันเป็น Work-based Education ทำงานไปเรียนไป อีกอันคือ Create Professionals by Professional ที่มีองค์ความรู้ มีผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้มาสอนเราด้วย และหลักสูตร 2.5 ปีเป็นหลักสูตรเร่งรัด แต่สามารถปฏิบัติได้เหมือนหลักสูตรอื่นๆ ปฏิบัติได้ เห็นภาพ ทำเป็น จบไปทำงานได้เลย นี่คือความประทับใจของผมครับ
• แพลนในอนาคต
“ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชาย สายพยาบาลที่ผมดูไว้คือพยาบาล ER ห้องฉุกเฉิน และ ICU อีกอย่างหนึ่งคือพยาบาลแท่นขุดเจาะน้ำมัน หรือพยาบาลต่างประเทศ ซึ่งเป็นแผนต่อไป เพราะเราสามารถไปต่อยอดได้“
• หลักสูตรพยาบาลวิชาชีพ 2.5 ปีที่เหมาะกับทุกคน
“หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับทุกคนเลย ทั้ง 4 ปี ทั้ง 2.5 ปี ใครที่ชอบลงมือปฎิบัติ ชอบเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ ได้ประสบการณ์จริง ทำงานจริง ที่สำคัญจบไปมีงานรองรับ มีทุน เราสามารถร่วมงานกับบริษัทหรือโรงพยาบาลในเครือซีพีได้ และที่นี่ยังส่งเสริมให้เราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ในด้านภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ที่เราได้เรียนแทรกเข้ามา ทำให้เรามีสกิลหลากหลาย ทั้งในด้านภาษา ด้านการปฎิบัติ และด้านการบริหารจัดการคน เพราะเราได้ฝึก 7-Eleven ด้วย”
โบว์-ปัญญาพร ศีรราวี
นักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตร 2.5 ปี
จบปริญญาตรีสาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
• จากสายสาธารณสุขสู่พยาบาล
“โบว์จบสาธารณสุขชุมชน มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์ เคยทำงานเป็นนักวิชาการสาธารณสุขอยู่โรงพยาบาลในจังหวัดสุรินทร์ พอดูบริบทในโรงพยาบาลเห็นพี่ๆ ทำงาน ด้วยหัตถการบางอย่างของงานสาธารณสุข เราไม่ได้ทำ คือการจับเข็ม การฉีดยา ซึ่งเป็นข้อห้ามของสาธารณสุข เลยตัดสินใจเรียนต่อพยาบาล เพื่อให้ได้ทำขอบเขตงานได้มากขึ้น กว้างขึ้น เลือกที่นี่เพราะเห็นว่ามีเทคโนยีล้ำสมัย อย่างหุ่นซิมต่างๆ เห็นแล้วน่าเรียนมาก บวกกับทุนการศึกษา เลยตัดสินใจมาเรียนค่ะ”
• ความประทับใจที่มีต่อหลักสูตร
“ประทับใจเทคโนโลยีของที่นี่ และเรื่องการเรียนการสอน อย่างที่เราเคยเรียนมาตอนปริญญาตรี 1 อาทิตย์จะเรียนประมาณ 3-4 วิชา แล้วก็จบไป แต่ที่นี่เรียนอย่าง เช่น วิชาการพยาบาลผู้ใหญ่ จะจบภายใน 2 อาทิตย์ เรียนเป็นบล็อกแล้วจบไป ทำให้เราสามารถโฟกัสการเรียนได้ และประทับใจท่านอาจารย์ น่ารักทุกคน ให้คำปรึกษาดี อาจารย์ที่นี่ใจดีมาก สภาพแวดล้อมก็ดี เพราะว่าได้อยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เห็นวิวเขาชีจรรย์ บรรยากาศดีค่ะ”
• ความคาดหวังในอนาคต
“เรียนจบไปก็เราสามารถไปทำงานกับโรงพยาบาลที่ทางเรามี MOU ด้วย ส่วนเรียนต่อเฉพาะทางที่คิดไว้ อาจจะเป็นพยาบาลไตเทียม หรือเรียนปริญญาโทต่อเป็นอาจารย์ค่ะ”
• จุดเด่นของคณะพยาบาลศาสตร์ พีไอเอ็ม
“จุดเด่นคือพยาบาลนักจัดการค่ะ เรียนทั้งในห้องเรียนและเรียนเสริมค้นหาความรู้จากข้างนอก และมีการจัดการความรู้ด้วยตัวเอง เป็นการบริหารจัดการที่ครบวงจรค่ะ”